Inu o Kau to Iu Koto
Tv asahi 2011
ยูจิ ..เสาหลักของครอบครัวที่คลอนแคลนเพราะเจอพิษของภาวะเศรษฐกิจ บริษัทที่ทำงานอยู่ตกอยู่ในภาวะถดถอยถึงขั้นต้องทยอยลดจำนวนพนักงาน ยูจิต้องทำหน้าที่ดำเนินการให้พนักงานแต่ละคนยินยอมลาออกแต่โดยดี (ที่จริงแล้วมันก็คือการไล่ออกนั่นแหละค่ะ) เขาต้องเผชิญหน้ากับพนักงานเพื่อเกี้ยกล่อม ก้มหัวขอร้อง คุกเข่าก็ทำ เพื่อขอร้องให้พนักงานคนนั้นๆ ยินยอมลาออกจากบริษัท ยูจิต้องทนทำงานนี้ด้วยความรู้สึกผิดและกดดัน เพราะเขาเองก็จำเป็นต้องเอาตัวให้รอดในฐานะสามีและพ่อที่ต้องหาเงินเลี้ยงดูปากท้องของครอบครัว
เจอพระเอกแบบนี้เข้าไปก็พาเครียดแล้ว พาลไม่อยากดูเอาซะเลย ก่อนหน้าก็รีรอมาสักพัก สุดท้ายที่ต้องยอมแพ้เพราะการแอบมีใจให้กับ อาซามิ ผู้รับบท ซาจิ แม่ของลูกๆ เธอเป็นแม่บ้านที่ขยันขันแข็ง ทั้งเลี้ยงลูก ทำงานบ้านและยังทำงานพิเศษช่วยแบ่งเบาภาระสามี ไม่เคยตำหนิ ไม่เคยบ่นว่ากับความอัตคัดขัดสน และทำหน้าที่ของตนอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
แต่เรื่องของเงินทองมันย่อมไม่เข้าใครออกใคร พล็อตเรื่องนี้พอคาดเดาเนื้อหาได้ง่าย เพราะมันเกี่ยวข้องกันโดยตรงกับภาวะเศรษฐกิจของครอบครัวที่ค่อนข้างเป็นจุดเปราะบาง ในโลกความเป็นจริง เงินเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหายต้องแตกคอ และทำให้คนในครอบครัวบาดหมางทะเลาะกันมานักต่อนัก ดังนั้น เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวจนๆ ที่ขัดสนเงินทอง ชวนให้คิดไปล่วงหน้าว่ามันต้องตึงเครียด และปวดหัวใจแน่ ถึงหยิบเรื่องนี้มาดูแบบใจไม่ค่อยเต็มร้อยนักในตอนแรก (แต่อยากดูอาซามิและเด็กๆ) ยิ่งได้พบว่าพื้นฐานการสร้างครอบครัวของยูจิกับซาจิไม่ได้ตั้งอยู่บนความถูกต้องเหมาะสมและ 'ความพร้อม' ยิ่งดูไปแบบหวั่นๆ ใจ ในสิ่งที่คิดว่ามันต้องมาถึงแน่นอน
เพราะความรักของวัยรุ่นหนุ่มสาวทำให้อาซามิตั้งท้องตั้งแต่ตอนอายุเพียง 21 ปี เพื่อที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ทั้งคู่จึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย ยูจิเลิกล้มความใฝ่ฝัน เลิกเล่นดนตรีที่รัก อาซามิก็ทอดทิ้งความฝันที่เคยมุ่งมั่นจะเป็นพยาบาลด้วยเช่นกัน แม้ครอบครัวไม่ยอมรับ แต่ยูจิกับซาจิก็ดึงดันจะใช้ชีวิตร่วมกัน หรือพูดอีกทีคือตัดสินใจ 'หนีตามกัน' ไม่มีความช่วยเหลือ ไม่มีเงิน ไม่มีงานแต่งงาน มีแต่การถ่ายรูปด้วยกันหน้าโบสถ์เป็นพยานของการเริ่มต้นชีวิตคู่
เจ้าหมาน้อยตัวนี้มันหลงทางมาจากไหนก็ไม่รู้ มันมาวนเวียนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่แม่ของมาโกะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ เด็กผู้หญิงเมื่อมาเจอหมาก็ปรากฏว่าถูกชะตาอย่างแรง แต่วันหนึ่งมันก็ถูกสถานคุ้มครองสัตว์จับตัวไป ด้วยจิตใจทีรักสัตว์และมีเมตตา เด็กน้อยมาโกะจึงหาหนทางไปยังสถานที่แห่งนั้น ทั้งที่ก็หวาดหวั่นกับสถานที่ที่ไม่เคยคุ้น กับเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ที่ท่าทางดุดัน เมือเขาถามว่าเป็นเจ้าของมาตามหามันหรือ มาโกะก็ได้แต่พยักหน้ารับสมอ้าง แต่เด็กน้อยใสซื่อไม่เคยโกหก ถามอะไรก็ไม่พูด ไม่อธิบาย เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ผู้ใหญ่ไม่โง่ย่อมรู้ว่าเด็กหญิงโกหก การไปสถานที่แห่งนั้นที่มีสัตว์เลี้ยงถูกขังไว้มากมาย ทำให้มาโกะได้รู้ หากสัตว์เหล่านั้นไม่มีเจ้าของมาติดต่อรับคืน จากนั้นไม่นานมันจะต้องถูกกำจัดโดยการฉีดยาให้ตาย แต่ถึงรู้เด็กน้อยก็ทำได้แค่เดินคอตกออกมาจากสถานคุ้มครองสัตว์ แต่เจ้าปอมเมเรเนียนตัวนี้มันดันหลุดหนีวิ่งออกมา ผู้ใหญ่วิ่งไล่ตาม มาโกะเข้าขวาง มันจึงหนีรอดไปได้
ใครไม่หลงรักเด็กหญิงคนนี้ก็บ้าแล้ว เพราะเธอเล่นได้อย่างสมควรถูกหลงรักมากๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ถูกยัดเยียดพฤติกรรมหรือความคิดที่จะทำให้ดูโตเกินวัย ซึ่งก็จะดูเป็นธรรมชาติแบบนี้ไปตลอดทั้งเรื่อง ข้อนี้ต้องชมผู้เขียนบทและบรรดาผู้กำกับและตัวหนูน้อยเองด้วยค่ะ
ปอมเปเรเนียนน้อย มันหนีกลับมาวนเวียนอยู่ ณ ที่แห่งเดิม ที่ที่มาโกะรู้ว่าจะหามันเจอ และเธอก็ตัดสินใจที่จะพามัน 'กลับบ้าน'
ตั้งแต่ที่เจ้าสกายตัวนี้เข้าล่วงสู่ประตูบ้านของครอบครัวฮงโงะ นับจากวันนั้นเรื่องร้ายต่างๆ ก็ประเดประดังเข้าสู่ครอบครัว โดยเกือบทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับ 'เงิน' ซึ่งจะว่าเรื่องของคนหมาไม่เกี่ยวก็ไม่เชิงนัก เพราะหลายเรื่องเจ้าสกายก็เป็นสาเหตุโดยตรง มันเป็นส่วนเพิ่มที่หมายถึงการแบ่งปันอาหาร มันต้องมีเชือก มีปลอกคอ ต้องมีใครสักคนพามันออกไปเดินเล่นให้ผ่อนคลาย พาไปอึฉี่นอกบ้าน แถมมันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักเจ็บไข้เป็น ต้องมีหยูกยารักษาต้องพบสัตวแพทย์ มันเป็นหมาก็จริง แต่หมาก็ต้อง 'ใช้เงิน' ทั้งยังเป็นปัญหาสังคม ให้เพื่อนบ้านรังเกียจเดียดฉันท์เพราะกฏของอพาร์ตเมนท์นั้น "ห้ามเลี้ยงสัตว์" และนั่นอาจหมายถึง ความเดือดร้อนครั้งใหญ่ หากครอบครัวฮงโงะถูกอันเชิญให้ย้ายออก
ละครเรื่องนี้จึงน่าซาบซึ้งใจอย่างมากกับเรื่องหมาๆ ที่ถึงมันจะนำพาแต่ความเดือดร้อนมาให้ แต่มันก็เป็นเครื่องเยียวยาและยึดเหนี่ยวครอบครัวอัตคัดขัดสนนี้ไว้ด้วยกัน อย่างน่าสนใจ
-
Nishikido Ryo
-
Asami Mizukawa
-
Kuge kokoro
-
Ryutaro